แชร์

ออริจิ้น ฉลองครบรอบ 10 ปี เปิดตัว “The Origin” คอนโดแบรนด์ใหม่เจาะ New Gen

ออริจิ้น เปิดตัว The Origin

ออริจิ้น เปิดตัว The Origin คอนโดแบรนด์ใหม่เจาะ New Gen
ชู Empathy ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมดึง “ซันนี่” เป็น Brand Ambassador

ออริจิ้น เปิดตัว The Origin – ออริจิ้น ปรับเซ็กเมนต์ธุรกิจสอดรับตลาดอสังหาฯปี 62 พร้อมเปิดตัวแบรนด์ “The Origin” ลุยตลาดคอนโด เพิ่มโอกาสเจาะกลุ่มวัยรุ่น-สะท้อนความเป็นตัวตน ชูแนวทาง “Empathy” ทุกกลุ่มธุรกิจ หนุน Smart Products และ Excellent Services สร้างมาตรฐานเหนือระดับดึงดูดใจลูกค้า

ดึง “ซันนี่” นั่งแท่น Brand Ambassador คนใหม่ กระตุ้นการจดจำพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 62 จ่อเปิดโครงการอสังหาฯเพื่อขายกว่า 26,000 ล้านบาท เตรียมเปิดให้บริการโรงแรม 2 แห่งปลายปีนี้ มั่นใจโกยยอดขายทั้งปีกว่า 28,000 ล้านบาท และรายได้อีกกว่า 19,000 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2562

ทำให้โครงการเปิดใหม่ในปีนี้จะประกอบด้วย 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ 1.พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) แบรนด์คอนโดมิเนียม เจาะกลุ่ม Young Rich & Success อายุ 30-45 ปี ที่ชื่นชอบ lifestyle และ lifestage ในทำเล CBD และ New CBD ราคาขายประมาณ 4-6 ล้านบาทต่อยูนิต 2.ดิ ออริจิ้น (The Origin) แบรนด์คอนโดมิเนียม เจาะกลุ่มลูกค้า New Gen วัยเริ่มต้นทำงาน (First Jobber and First Home Buyer) อายุประมาณ 24-28 ปีที่มีแนวคิด Smart Finance เปลี่ยนค่าเช่าเป็นทรัพย์สิน

ซื้อคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า ในย่านส่วนต่อขยายธุรกิจ (EBD) ราคาขายประมาณ 1.6-2.4 ล้านบาท และ 3.บริทาเนีย (Britania) แบรนด์โครงการแนวราบทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ที่มี Smart Design เจาะกลุ่มวัยเริ่มต้นครอบครัว อายุ 28-45 ปี ในระดับราคา 2.5-6 ล้านบาท

“จากความโดดเด่นในการวิจัยการตลาด และความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาสินค้าและบริการ บริษัทมั่นใจว่า Brand Segmentation ที่มีความชัดเจน และ Price Point ที่แม่นยำในลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่ม จะทำให้บริษัทสามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการปรับตัวครั้งใหญ่จาก Macro Prudential Policy ของธนาคารแห่งประเทศไทย” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ จุดแข็งสำคัญที่ทำให้บริษัทมัดใจผู้บริโภคได้คือเรื่องความเข้าใจลูกค้า (Empathy) ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทต่างตระหนักถึงความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป็นอย่างดี ส่งผลให้บริษัทจะต่อยอดเรื่องEmpathy ผ่าน 2 เรื่องได้แก่

1.Smart Products พัฒนาสินค้าทุกประเภทให้มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น ประกอบกับนำ Smart Technology เข้ามาช่วยเติมเต็ม

2.Excellenct Services มอบบริการเหนือระดับที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกพนักงานทุกคนในด้านการบริการแบบนึกถึงใจเขาใจเรา

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ปีนี้บริษัทยังสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง กับการเปิดตัว Brand Ambassador คนใหม่ คือซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ซุปตาร์แถวหน้าของเมืองไทยที่มี Characterความเป็น Romantic Comedy มาช่วยสะท้อนถึงบุคลิกแบรนด์ต่างๆ ในเครือออริจิ้น ขณะเดียวกัน จะตอกย้ำภาพเรื่อง Empathy ให้ผู้บริโภคได้เห็นทั้งเรื่อง Smart Products และ Excellent Services ชัดเจนมากขึ้น โดยจะมีโฆษณาตัวแรกขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.นี้

สำหรับผลประกอบการในปี 2561 ถือว่าเป็นไปได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถสร้างยอดขายรวมได้มากกว่า 27,500 ล้านบาท ส่วนปี 2562 นั้น บริษัทตั้งเป้าจะเปิดโครงการอสังหาฯเพื่อขาย มูลค่าโครงการรวมกว่า26,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น 3 โครงการในทำเลราชเทวี พระราม 4 และอีก 1 โครงการในย่าน New CBD มูลค่ารวมประมาณ 9,000 ล้านบาท

2. แบรนด์ดิ ออริจิ้น 7 โครงการในย่านยอดนิยมสำหรับ New Gen ได้แก่ สุขุมวิท รัชดา ลาดพร้าว รามคำแหง และรามอินทรา มูลค่ารวมประมาณ 9,000 ล้านบาท

3.โครงการมิกซ์ยูสใหม่ Origin District Rayong มูลค่า 2,000 ล้านบาท และ

4.แบรนด์บริทาเนีย 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายจากทั้งโครงการเก่าและใหม่รวมกันไว้ที่ 28,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน จะเปิดตัวโรงแรมใหม่ทั้งสิ้น 2โครงการ ทำให้ปีนี้ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทจะมีการเติบโตและรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 19,000 ล้านบาท

 

ด้านนางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น เฮ้าส์ จำกัด บริษัทที่ดูแลธุรกิจโครงการแนวราบในเครือออริจิ้น กล่าวว่า จากเดิมที่เป็นกลุ่มธุรกิจย่อยของเครือในปีที่ผ่านมา มาปีนี้บริษัทพร้อมขับเคลื่อนนำโครงการแนวราบแบรนด์บริทาเนียขึ้นมาเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักของออริจิ้น

โดยโฆษณาชิ้นแรกที่มี Brand Ambassador มาแสดงนั้นจะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ที่แตกต่างของแบรนด์บริทาเนียให้อยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภค รวมถึงเป็นการเปิดตัวแบรนด์บริทาเนียสู่ตลาดแนวราบ และส่งเสริมให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดต่อไป

“Empathy ในธุรกิจโครงการแนวราบของออริจิ้นนั้น ได้ส่งมอบทั้ง Smart Products และ Excellent Services ในทำเลที่ติดเส้นทางคมนาคมหลัก เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกและอยู่ใกล้แหล่งงานที่มีการเติบโตสูง โดยเฉพาะกรุงเทพฯโซนตะวันออก บางนา และ EEC

จากความประทับใจของลูกค้า พิสูจน์ความสำเร็จได้จากยอดขาย Pre-event ในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา กับ 3 โครงการใหม่ คือ บริทาเนีย เมกะทาวน์ บางนา, บริทาเนีย บางนา กม. 12, และ บริทาเนีย วงแหวน-หทัยราษฎร์ ซึ่งเรามียอดขายมากถึง 1,000 ล้านบาทภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในการขายบ้านจัดสรรแบบ Presale” นางศุภลักษณ์ กล่าว

 

ด้านนางกมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด บริษัทที่ดูแลธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนในเครือออริจิ้น กล่าวว่า ปี 2562 เป็นปีที่เห็นความสำเร็จของแผนการขยายงานอย่างชัดเจน โดยการก่อสร้างโรงแรมทั้ง 5 แห่งที่ประกาศเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโรงแรม Staybridge Suites Bangkok Thonglor และโรงแรม Holiday Inn & Suites Sriracha ที่ก่อสร้างได้เร็วกว่าแผน

และคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ และทยอยสร้างรายได้กลับเข้าสู่บริษัท อีกทั้งปี 2562 นี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ทั้งโรงแรมในกรุงเทพฯ และมิกซ์ยูสครบวงจรแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง ที่จะมีการเติบโตสูงจากการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและ Smart Park ในมาบตาพุด ที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของ EEC

“ความต้องการเข้าพักของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายที่สำคัญของโลกทั้งในแง่การท่องเที่ยวและการทำธุรกิจ จากความเข้าใจธุรกิจ ความเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และความร่วมมือกับเชนผู้บริหารระดับโลก ทำให้เราสามารถรังสรรค์ Smart Products และมั่นใจในการส่งมอบ Excellent Services ให้แก่ลูกค้าของเรา” นางกมลวรรณ กล่าว


นายธนา ต่อสหะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด บริษัทที่ดูแลธุรกิจบริการในเครือออริจิ้น กล่าวว่า พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จะถือเป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญของออริจิ้นที่นำเรื่องExcellent Services และ Smart Brokerage มาส่งมอบให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย ด้วยวิสัยทัศน์ของเครือไม่ได้เพียงต้องการขายสินค้าแล้วจากไป แต่ต้องการส่งมอบการอยู่อาศัยและประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

“Insight ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน คือเติบโตมาจากครอบครัวที่ได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดี มีคนคอยทำทุกอย่างให้ เมื่อมาอยู่คอนโดหรือบ้านจัดสรรยุคใหม่ จึงต้องการบริการต่างๆ ในทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิต บริการ Fully Services ครบวงจรในการใช้ชีวิตของพรีโม จึงเป็น Excellent Services ที่เติมเต็มความสุขของการอยู่อาศัย” นายธนา กล่าว

ทั้งนี้ พรีโม มีบริการ After Sales Service ครบวงจร ผ่านบริษัทย่อย 6 บริษัท ส่งมอบ Excellent Services ที่ได้รับการการันตีโดยมาตรฐาน ISO 9001 ทั้งด้าน Property Management และด้าน Home Serviceเป็นรายแรกของไทย ให้แก่ผู้อยู่อาศัยตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นลูกบ้านออริจิ้น พรีโมยังมี Service Application ผ่านแอปพลิเคชั่น BUTLER รวบรวมทุกงานบริการเอาไว้อย่างครบวงจร และในปี 2562 พรีโมไม่ได้มีเป้าหมายเพียงส่งมอบบริการสุดพิเศษนี้ให้เฉพาะลูกบ้านออริจิ้น แต่ยังเปิดกว้างการขยาย Excellent Services เข้าไปช่วยดูแลลูกค้าในโครงการที่อยู่อาศัยทุกแบรนด์ทุกประเภท เพื่อเป็น Living Partner ส่งมอบความสุขให้แก่ทุกคน

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 51 โครงการ เช่น แบรนด์ PARK ORIGIN, KnightsBridge, Notting Hill, Kensington และ Britania รวมมูลค่าโครงการกว่า 84,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

บทความเรื่องราวที่น่าสนใจ

ภาครัฐฯ ออกนโยบายเอื้อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองปรับปรุงมาตรการ “ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม” สำหรับที่อยู่อาศัยปี 2567คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวข้างต้นช่วยจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งห่วงโซ่อุปทานการผลิต (Supply Chain) ส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ อันจะก่อให้เกิด การจ้างงาน การผลิต รวมถึงอาจก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีประเด็น การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ ซึ่งมีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ในการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่มีเป้าหมายในการดึงดูดนักลงทุนและผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการปรับกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการถือครองทรัพย์สิน ดังนั้น คณะรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ไปดำเนินการพิจารณา ศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการซึ่งจะได้นำเสนอกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81559…
อยู่คอนโดก็สามารถเลี้ยงสัตว์ได้แบบไม่ต้องแอบ เพราะออริจิ้นเราเข้าใจเหล่า Pet Lover จึงพัฒนาคอนโดสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้โดยเฉพาะ และยิ่งแฮปปี้กันแบบคูณสอง ทั้งน้องๆ และคนเลี้ยง กับไอเทมที่มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ให้การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดเป็นอะไรที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม หรือจะไปไหนก็ไม่ต้องคอยห่วง เหล่าทาสเตรียมซื้อ 3 ไอเทมให้เจ้านายได้เลย ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยง การทำความสะอาดอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเราเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และสิ่งที่ละเลยไม่ได้เลยก็คือการเป่าให้ขนของสัตว์เลี้ยงแห้งสนิท โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ขนยาว แต่การจะเป่าขนให้แห้งสนิทด้วยไดร์นั้นค่อนข้างใช้เวลานาน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย “ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยง” ทำให้การเป่าขนสัตว์เลี้ยงง่ายขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในตู้ จากนั้นกดทำงานตัวเครื่องก็จะเป่าขนอัตโนมัติได้ภายใน 30 – 45 นาที โดยที่เจ้าของไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด หุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่มาพร้อมกล้องคมชัด กล้องวงจรปิดสัตว์เลี้ยง ที่เป็นมากกว่าแค่กล้องธรรมดา มาในรูปแบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ มีล้อเคลื่อนที่ได้ และยังเล่นกับน้องหมา น้องแมวได้อีกด้วย สามารถเคลื่อนที่ได้ บังคับทิศทางได้ผ่านแอปพลิเคชัน มีลำโพง และไมโครโฟนในตัว ให้เจ้าของสามารถสื่อสารกับน้องๆ ได้ แม้ตัวจะอยู่ไกล แถมยังให้ขนมเป็นรางวัลให้กับน้องหมาน้องแมวได้อีกด้วย เป็นทั้งกล้องดูสัตว์เลี้ยง และเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับน้องๆ ระหว่างที่เจ้าของไม่อยู่ได้ เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ เป็นเครื่องที่อำนวยความสะดวก สบาย ให้กับทาสหมา ทาสแมวที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่ค่อยได้อยู่บ้าน หมดกังวลเวลาน้องหิวได้เลย เพราะเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้เจ้าของมีความสะดวก สบาย ในการให้อาหารน้องแบบสุดๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนทำอะไร หรือ ต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ไม่สามารถพาน้องไปด้วยได้ เลี้ยงสัตว์ได้แบบสบายใจกับโครงการคอนโดพร้อมอยู่เลี้ยงสัตว์ได้จากออริจิ้น และคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้อีกหลายโครงการ สำหรับใครที่เป็นสาย Pet Lover ไม่ควรพลาด เพราะเราออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดรองรับไลฟ์สไตล์สำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://oriurl.com/y7t42tsy…
สร้างพื้นที่สีเขียวในห้องเรา ด้วยต้นไม้มงคล ทั้งเฮงทั้งสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน นอกจากต้นไม้จะสร้างบรรยากาศและให้ความสวยงามสบายตาแล้ว ยังช่วยให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แถมต้นไม้เหล่านี้ยังช่วยเราลดความเสี่ยงจากฝุ่นละอองเปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศธรรมชาติได้อีกด้วย ในการเลือกต้นไม้มาปลูกในห้องนั้นควรเลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดเยอะ ช่วยฟอกอากาศได้ มีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป และดูแลง่าย เราเลยขอแนะนำต้นไม้มงคล ที่ปลูกง่าย ดูแลง่ายในคอนโด เสริมฮวงจุ้ย พร้อมเพิ่มความสดชื่นภายในห้องคุณอีกด้วย จะมีต้นอะไรบ้างไปดูกันค่ะ ต้นพลูด่าง ต้นพลูด่าง หากปลูกไว้ในห้องจะช่วยเพิ่มพูนบารมี เพิ่มพูนทรัพย์สิน ช่วยเพิ่มความสงบสุข และความราบรื่น ต้นพลูด่างมีประโยชน์ในเรื่องของการดูดสารพิษ ช่วยทำให้ห้องมีอากาศดีมากยิ่งขึ้น การดูแล : ต้นที่ปลูกในดินควรรดน้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ส่วนต้นที่ปลูกในน้ำให้ละลายปุ๋ยใส่น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง ตั้งกระถางให้โดนแดดรำไร ต้นเงินไหลมา ต้นเงินไหลมา ไม้เลื้อยที่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ต้องมีไว้ในครอบครอง เพราะเชื่อว่าใครเป็นเจ้าของจะร่ำรวยเงินทอง มีเงินใช้ไม่ขาดมือ การดูแล : สามารถปลูกและดูแลได้ง่าย ปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ เป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดมาก สามารถวางในร่มได้ ต้นวาสนา เหมาะสำหรับคนที่ทำกิจการค้าขาย เพราะเชื่อว่าถ้าปลูกจนสามารถทำให้ออกดอกได้ จะช่วยให้กิจการเจริญเติบโตขึ้นมาก หรือหากทำงานบริษัทก็จะได้เลื่อนขั้นไปตำแหน่งที่สูงขึ้น การดูแล : รดน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ปลูกหรือตั้งกระถางไว้ในพื้นที่แสงแดดรำไร ต้นยางอินเดีย ต้นยางอินเดีย ช่วยส่งเสริมผู้อยู่อาศัย ช่วยเยียวยาจิตใจให้มีพลัง ช่วยเสริมความเป็นมงคลในการใช้ชีวิต และช่วยให้เจ้าของมีความสุขร่มเย็นอยู่เสมอ การดูแล : เหมาะสำหรับวางประดับในบ้าน เช่น ข้างประตู ริมหน้าต่าง หรือที่มีแสงสว่างแต่ไม่โดดแดดจัด โดยหมั่นรดน้ำ 2-3 วันต่อครั้ง ต้นลิ้นมังกร ต้นไม้มงคล ที่มีความสามารถสารพัดประโยชน์ เชื่อกันว่า ช่วยคุ้มครองและกำจัดภัยอันตรายต่างๆ และนำโชค เป็นต้นไม้ฟอกอากาศ เหมาะที่จะนำมาปลูกในช่วงนี้ที่มีภาวะฝุ่น PM 2.5 หนา จะช่วยให้อากาศในคอนโดบริสุทธิ์มากขึ้น การดูแล : รดน้ำวันเว้นวัน หรือ 3 วันครั้ง สำหรับใครที่กำลังของตกแต่งห้องสายมู ที่ช่วงเสริมเรื่องฮวงจุ้ย ทั้งเงินทอง โชคลาภ และความอยู่เย็นเป็นสุข สามารถเลือกต้นไม้มงคล 5 ต้นนี้มาตกแต่งห้องได้เลยค่ะ หรือว่าจะเข้ามาเยี่ยมชมห้องตัวอย่างจาก คอนโด Origin Vertical เพื่อเลือกตำแหน่งวางต้นไม้ก่อนได้เลยค่ะ…
จากชีวิตอันแสนเร่งรีบ เราต่างต้องหาจังหวะชีวิตของตัวเอง เพื่อพร้อมปรับตัวทุกสถานการณ์ ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ‘ที่อยู่อาศัย’ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต่างต้องเลือกสรรให้เข้าตัวเองมากที่สุด และแน่นอนว่าหลายๆ คนก็เลือกคอนโด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า คอนโด High Rise หรือคอนโดตึกสูงเป็นนิยมมาโดยตลอด ด้วยความสะดุดตา โดดเด่นด้วยตัวสถาปัตยกรรมและความสูงของตัวอาคารทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยคอนโด High Rise อยู่ในทำเลศักยภาพใจกลางเมือง หรือใกล้รถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่ การเดินทางที่สะดวก และมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำได้ไม่มีเบื่อ เสมือนทุกวันเป็นวันพักผ่อน Urbanscape ชมวิวเมืองได้ 360 องศา  1 ในเหตุผลที่หลาย ๆ คนเลือกซื้อคอนโดตึกสูง ก็คือวิวเมืองที่เราพบเจอในทุกวัน การได้นั่งมองท้องฟ้ากว้าง ๆ ที่เปลี่ยนไปในทุกวันและแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ตัดกับอาคารสูงในเมือง ก็เป็นความสุขในรูปแบบหนึ่งของชาวคอนโดเช่นกัน High Ceiling ชั้นสูง ปลอดโปร่ง เป็นส่วนตัว ด้วยความสูงของตัวอาคารคอนโด High-Rise เช่นเคย ยิ่งห้องคอนโดของโครงการอยู่สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสเห็นทัศนียภาพที่สวยงามจากวิวมุมสูงได้มากขึ้น ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัว และปลอดโปร่ง ได้รับอากาศถ่ายเทจากกระแสลมโดยรอบได้ดี Living with Nature ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางพื้นที่สีเขียว โครงการคอนโด High Rise มีพื้นที่และขนาดโครงการค่อนข้างใหญ่ จึงมีพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติที่ผ่านการรังสรรค์มาเป็นอย่างดี ให้เราได้สูดอากาศทุกวัน Sky Facilities พักผ่อนพร้อมชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ คอนโด High Rise มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายตอบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้สุดสายตา Fitness สายรักสุขภาพ Sky Bar จิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิว และยังมี Facilities อีกมากมายที่ตอบโจทย์ชาวคอนโด Sunrise & Sunset ชมวิวพระอาทิตย์ ท้้งตอนขึ้นและพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าตัดกับวิวเมืองได้อย่างเต็มสายตา ซึ่งสามารถชมได้ทั้งจากห้องของคุณ และพื้นที่ที่ส่วนกลางที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เลือกคอนโด High Rise กับความสูงที่คุณสัมผัสได้…
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้รับเกียรติเข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการประกอบการ จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นการยกย่องเชิดชูในฐานะผู้ทรงคุณค่าที่มีความรู้ความสามารถระดับสูง ด้านการบริหารงานและบริหารคนอย่างแท้จริง และนับเป็นบุคคลที่เป็นแบบอย่างอันดีในการสร้างคุณงามความดีต่อสังคมและประเทศ โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญา ประจำปีการศึกษา 2565 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567…
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ร่วมลงนาม “CECI: Action for Sustainable Future” ผนึกกำลัง 37 องค์กรไทย นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเปลี่ยนอุตสาหกรรมก่อสร้างสู่ความยั่งยืนตลอด Supply Chain เดินหน้าโปรเจกต์ Waste Management ในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการในเครือ พร้อมวางโรดแมป “ORIGIN GIVE” สร้างความยั่งยืนรอบด้าน ดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2044 นายธนพล สินธุยนต์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนขององค์กร และประธานเจ้าหน้าที่ด้านงานออกแบบ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก กลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Circular Economy In Construction Industry: CECI) ร่วมกับ 37 องค์กรชั้นนำของไทยจาก 5 กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทสถาปนิกและที่ปรึกษาด้านการก่อสร้าง บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และบริษัทผู้ให้บริการจัดการของเหลือจากการก่อสร้าง ภายในงาน CECI : Action for Sustainable Future ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)มาประยุกต์ใช้ในการก่อสร้างตลอดห่วงโซอุปทาน (Supply Chain) พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดปริมาณวัสดุเหลือทิ้ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนไทย “เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่รอไม่ได้อีกต่อไป ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดคือการดูแลกระบวนการก่อสร้างของเราให้รบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่งครั้งนี้เราได้ผนึกกำลังกับกลุ่มองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปประยุกต์ปฏิบัติจริง เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายธนพล กล่าว ภายใต้ความร่วมมือ CECI ครั้งนี้ บริษัทได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาต่อยอดเป็นแนวทางบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ (Waste Management) ภายในพื้นที่ก่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเครือ อาทิ กำหนดให้มีการหมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ และกำหนดให้มีการนำวัสดุก่อสร้างเหลือใช้มาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยร่วมมือกับ Recycoex ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์รับซื้อ-ขายขยะรีไซเคิล ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้เครือข่าย CECI มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยบริษัทจะนำร่องใช้กับโครงการคอนโดมิเนียมออริจิ้น เพลส บางนา (Origin Place Bangna) เป็นโครงการแรก และจะขยายสู่ทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาในปี 2567 เป็นต้นไป นายธนพล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังวางโรดแมปขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนอย่างรอบด้าน ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “ORIGIN GIVE” ซึ่งหนึ่งในพันธกิจสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม คือการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ในโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบกระบวนการก่อสร้างในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้เกิดการหมุนเวียนและนำไปใช้ซ้ำ เพื่อลดมลพิษและปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุดก่อนออกสู่นอกพื้นที่โครงการ โดยมุ่งหวังให้ภารกิจนี้เป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2044 (พ.ศ. 2587) ซึ่งจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนในสังคม ทั้งนี้ ความร่วมมือ CECI มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ผ่านพันธกิจ (Mission) หลัก 5 ข้อ ได้แก่ 1.สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Circular Economy ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง 2.ขยายเครือข่ายความร่วมมือของ CECI ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 3.ผลักดัน และส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนทั้ง Value Chain ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง 4.พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยนำแนวคิดเรื่องการออกแบบอย่างยั่งยืน Smart…