แชร์

“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse” เติบโตแบบพหุจักรวาลสู่อาณาจักรแสนล้าน เล็งนำบริษัทย่อยเข้า IPO สร้าง Multiverse of Happiness

“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse”

“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” เปิดแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล “Origin Multiverse” กับ 3 ขั้นตอน Expanding-Growing-Connecting ขยายอาณาจักรจากธุรกิจอสังหาฯสู่ 4 กลุ่มจักรวาลธุรกิจควบหลากธุรกิจใหม่ ทั้งโลจิสติกส์-เฮลท์แคร์-ประกันภัย-พลังงาน-การเงิน-ร้านอาหาร-กัญชง จัดทัพมืออาชีพกุมบังเหียนการเติบโตจักรวาลย่อย วางแผนปั้นบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่ม

นำร่องด้วย พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น-วัน ออริจิ้น-แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น หวังเกิด Multiverse of Happiness เชื่อมทุกจักรวาลสู่อาณาจักร Market Cap รวมแสนล้านภายในปี 2568 สร้างอีโคซิสเท็มที่ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภคได้แบบครบวงจร ด้านจักรวาลที่อยู่อาศัยปี 2565 ตั้งเป้าทุกด้าน All Time High เปิดตัวโครงการใหม่เฉียด 42,000 ล้าน ตั้งเป้ายอดขายที่ 35,000 ล้าน พร้อมลุยเมกะโปรเจกต์แห่งปี “ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์”

“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse”

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า หลังจากก่อตั้งบริษัทมาได้กว่า 12 ปี บริษัทได้พัฒนา ปรับตัว และเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ ตลอดจนเมกะเทรนด์ระยะยาวของโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค จากวันแรกที่มีเพียงธุรกิจพัฒนาคอนโดมิเนียม สู่ปัจจุบันที่มีอาณาจักรธุรกิจใหม่ๆ แตกแขนงออกมาจำนวนมาก ในปี 2565 นี้ จึงเตรียมแผนการดำเนินงานใหม่ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และครั้งสำคัญภายใต้แนวคิด “ORIGIN MULTIVERSE” หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล

“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse”

ภายใต้แผน ORIGIN MULTIVERSE ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1.ขยายสู่จักรวาลใหม่ (Expanding to the new universe) จากเดิมที่ออริจิ้นมีจักรวาลหลักคือจักรวาลพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ขยายตัวเองเข้าสู่จักรวาลใหม่ๆ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มจักรวาล ได้แก่

1.กลุ่มจักรวาลที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential for Sales)

2.กลุ่มจักรวาลธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business)

3.กลุ่มจักรวาลธุรกิจบริการ (Service Business)

4.กลุ่มจักรวาลเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends Business)

โดยทั้ง 4 กลุ่มจักรวาล ยังคงประกอบด้วยจักรวาลธุรกิจย่อยๆ ที่ทยอยเกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง และยังอาจมีจักรวาลย่อยๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต

“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse”

2.แยกกันเติบโตแบบคู่ขนาน (Growing in the separated timeline) ให้ทุกบริษัทย่อยมีเส้นทางการเติบโตแบบคู่ขนานในจักรวาลของตัวเอง ผ่านการจัดทัพผู้บริหารมืออาชีพในธุรกิจนั้นๆ เข้าไปช่วยดูแลทิศทางการเติบโต สร้างจุดแข็งให้แก่ทุกกลุ่มธุรกิจ

โดยจะมีบริษัทย่อยที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (IPO) เพิ่มเติม นำโดย บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เช่น โรงแรม ออฟฟิศ ค้าปลีก บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด บริษัทร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม เช่น คลังสินค้า โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ครบวงจร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เข้า IPO ไปแล้วในช่วงปลายปี 2564 คาดว่าภายในปี 2568 ออริจิ้นและทุกบริษัทที่เข้าจดทะเบียนจะกลายเป็นอาณาจักรที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) รวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท

“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse”

3.เชื่อมโยงอีโคซิสเท็ม (Connecting the ecosystem) เชื่อมโยงทุกจักรวาลที่แยกย้ายกันไปเติบโต กลับมาดูแลผู้บริโภคร่วมกันเป็นอีโคซิสเท็ม สร้าง Multiverse of Happiness ที่ครอบคลุมการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

“เมื่อก่อนทุกคนรู้จักออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เฉพาะจากจักรวาลหลักอย่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วันนี้ เรามีผู้บริหารที่เปรียบเสมือนตัวผมในอีกหลากหลายจักรวาล หลากหลายธุรกิจ ที่จะช่วยกันพาแบรนด์ใหม่ๆ ธุรกิจใหม่ๆ พาทุก Multiverse ให้เติบโต เป็นที่รู้จัก และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในธุรกิจเหล่านั้น และทุกธุรกิจเหล่านั้นจะเชื่อมโยง รวมพลังกันกลับมาเป็น Multiverse of Happiness เป็นอีโคซิสเท็มที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนทุกช่วงวัย ทุกเจเนอเรชั่น และทุกจังหวะการใช้ชีวิต” นายพีระพงศ์ กล่าว

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า แม้จะมีการเติบโตไปยังจักรวาลใหม่ๆ แต่บริษัทจะยังคงรักษาระดับการเติบโตในจักรวาลอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 นี้ ตั้งเป้าทุกด้านแบบ All Time High เริ่มต้นจากเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 31 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 42,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 137% แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 13,400 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 19 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 28,600 ล้านบาท โดยในฝั่งคอนโดมิเนียมจะเติบโตไปในทุกเซ็กเมนท์ มีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น แบรนด์ ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) ออริจิ้น เพลส (Origin Place) และบุกทำเลใหม่ๆ เช่น ฝั่งธนบุรี ทั้งนี้ จะมีโครงการใหม่ที่เป็นเมกะโปรเจกต์ย่านทองหล่อ ภายใต้ชื่อ “ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์” (Origin Thonglor World) ที่มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 15,000 ล้านบาท โดยจะมีการทยอยเปิดตัวโครงการอีกครั้งเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 35,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้รวม 17,500 ล้านบาท หลังจากปี 2564 ทำผลงานทุกด้านเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยม สร้าง New High ยอดโอนรวมโครงการกิจการร่วมค้ากว่า 16,157 ล้านบาท มีรายได้รวม 15,943 ล้านบาท และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2563 กว่า 43% อีกทั้ง มีกำไรสุทธิ 3,194 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 กว่า 20% ส่งผลให้บริษัทเตรียมจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสิ้นปี 2564 ในอัตรา 0.42 บาท ต่อหุ้น

ด้านนางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า ในฐานะบริษัทที่ดูแลบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร อาทิ บริการที่ปรึกษาและตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ บริการบริหารจัดการนิติบุคคล บริการตกแต่งภายใน บริการขนย้าย บริการด้านความสะอาดและความปลอดภัย บริการบริหารโรงแรมและที่อยู่อาศัย (Hotel & Residence Management Operator) บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจบริการใหม่ๆ เพื่อขยายขอบเขตการดูแลผู้บริโภค รวมถึงมีหลากกลยุทธ์ที่จะชิงส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างรายได้ได้ถึง 490 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่ค่อนข้างสูงในธุรกิจนี้ คาดว่าบริษัทจะเป็นบริษัทแรกในเครือนับจากนี้ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในช่วงปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 และมีเป้ารายได้ ณ ปี 2566 ที่ 750 ล้านบาท โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินคือบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด

“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse”

ด้านนายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทยอยปรับโครงสร้างภายในอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า ธุรกิจค้าปลีก แต่จะมีธุรกิจอื่นๆ ภายใต้การบริหาร เช่น ธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในแถบเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และหัวเมืองสำคัญต่างจังหวัด ธุรกิจร้านอาหาร โดยภายในช่วง 5 ปีจากนี้ จะได้เห็นโครงการภายใต้การพัฒนาของวัน ออริจิ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 49,100 ล้านบาท สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีที่ปรึกษาทางการเงินคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

ด้านนายปธาน สมบูรณสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวบริษัทเมื่อช่วงปลายไตรมาส 3/2564 บริษัทเดินหน้าแผนการเติบโตได้เร็วกว่าแผนงาน โดย ณ สิ้นปี 2564 มีที่ดินเพื่อใช้พัฒนาพื้นที่เช่าทางอุตสาหกรรมกว่า 155,000 ตร.ม. จากแผนเดิมประมาณ 40,000 ตร.ม. สำหรับการพัฒนาโครงการแรกในย่านบางนา กม.22 ภายใต้ชื่อ แอลฟา บางนา กม.22 คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 2/2565 และเริ่มรับรู้รายได้ได้ภายในปีนี้ ขณะเดียวกัน ยังมีอีกหลากหลายโปรเจกต์ภายใต้แผนงาน ทั้งผ่านการซื้อกิจการ และการพัฒนาเอง เพื่อไปสู่เป้าหมายพื้นที่ภายใต้บริหารจัดการกว่า 1 ล้าน ตร.ม. ภายในปี 2568 สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีที่ปรึกษาทางการเงินคือ บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse”

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 98 โครงการ (ณ สิ้นปี 2564) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 143,800 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจเฮลท์แคร์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร โดยปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัท (Market Capitalization) อยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท ขณะที่บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท

แท็กที่เกี่ยวข้อง

บทความเรื่องราวที่น่าสนใจ

ภาครัฐฯ ออกนโยบายเอื้อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองปรับปรุงมาตรการ “ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม” สำหรับที่อยู่อาศัยปี 2567คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวข้างต้นช่วยจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งห่วงโซ่อุปทานการผลิต (Supply Chain) ส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ อันจะก่อให้เกิด การจ้างงาน การผลิต รวมถึงอาจก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีประเด็น การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ ซึ่งมีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ในการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่มีเป้าหมายในการดึงดูดนักลงทุนและผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการปรับกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการถือครองทรัพย์สิน ดังนั้น คณะรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ไปดำเนินการพิจารณา ศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการซึ่งจะได้นำเสนอกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81559…
อยู่คอนโดก็สามารถเลี้ยงสัตว์ได้แบบไม่ต้องแอบ เพราะออริจิ้นเราเข้าใจเหล่า Pet Lover จึงพัฒนาคอนโดสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้โดยเฉพาะ และยิ่งแฮปปี้กันแบบคูณสอง ทั้งน้องๆ และคนเลี้ยง กับไอเทมที่มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ให้การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดเป็นอะไรที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม หรือจะไปไหนก็ไม่ต้องคอยห่วง เหล่าทาสเตรียมซื้อ 3 ไอเทมให้เจ้านายได้เลย ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยง การทำความสะอาดอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเราเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และสิ่งที่ละเลยไม่ได้เลยก็คือการเป่าให้ขนของสัตว์เลี้ยงแห้งสนิท โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ขนยาว แต่การจะเป่าขนให้แห้งสนิทด้วยไดร์นั้นค่อนข้างใช้เวลานาน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย “ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยง” ทำให้การเป่าขนสัตว์เลี้ยงง่ายขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในตู้ จากนั้นกดทำงานตัวเครื่องก็จะเป่าขนอัตโนมัติได้ภายใน 30 – 45 นาที โดยที่เจ้าของไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด หุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่มาพร้อมกล้องคมชัด กล้องวงจรปิดสัตว์เลี้ยง ที่เป็นมากกว่าแค่กล้องธรรมดา มาในรูปแบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ มีล้อเคลื่อนที่ได้ และยังเล่นกับน้องหมา น้องแมวได้อีกด้วย สามารถเคลื่อนที่ได้ บังคับทิศทางได้ผ่านแอปพลิเคชัน มีลำโพง และไมโครโฟนในตัว ให้เจ้าของสามารถสื่อสารกับน้องๆ ได้ แม้ตัวจะอยู่ไกล แถมยังให้ขนมเป็นรางวัลให้กับน้องหมาน้องแมวได้อีกด้วย เป็นทั้งกล้องดูสัตว์เลี้ยง และเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับน้องๆ ระหว่างที่เจ้าของไม่อยู่ได้ เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ เป็นเครื่องที่อำนวยความสะดวก สบาย ให้กับทาสหมา ทาสแมวที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่ค่อยได้อยู่บ้าน หมดกังวลเวลาน้องหิวได้เลย เพราะเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้เจ้าของมีความสะดวก สบาย ในการให้อาหารน้องแบบสุดๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนทำอะไร หรือ ต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ไม่สามารถพาน้องไปด้วยได้ เลี้ยงสัตว์ได้แบบสบายใจกับโครงการคอนโดพร้อมอยู่เลี้ยงสัตว์ได้จากออริจิ้น และคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้อีกหลายโครงการ สำหรับใครที่เป็นสาย Pet Lover ไม่ควรพลาด เพราะเราออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดรองรับไลฟ์สไตล์สำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://oriurl.com/y7t42tsy…
สร้างพื้นที่สีเขียวในห้องเรา ด้วยต้นไม้มงคล ทั้งเฮงทั้งสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน นอกจากต้นไม้จะสร้างบรรยากาศและให้ความสวยงามสบายตาแล้ว ยังช่วยให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แถมต้นไม้เหล่านี้ยังช่วยเราลดความเสี่ยงจากฝุ่นละอองเปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศธรรมชาติได้อีกด้วย ในการเลือกต้นไม้มาปลูกในห้องนั้นควรเลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดเยอะ ช่วยฟอกอากาศได้ มีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป และดูแลง่าย เราเลยขอแนะนำต้นไม้มงคล ที่ปลูกง่าย ดูแลง่ายในคอนโด เสริมฮวงจุ้ย พร้อมเพิ่มความสดชื่นภายในห้องคุณอีกด้วย จะมีต้นอะไรบ้างไปดูกันค่ะ ต้นพลูด่าง ต้นพลูด่าง หากปลูกไว้ในห้องจะช่วยเพิ่มพูนบารมี เพิ่มพูนทรัพย์สิน ช่วยเพิ่มความสงบสุข และความราบรื่น ต้นพลูด่างมีประโยชน์ในเรื่องของการดูดสารพิษ ช่วยทำให้ห้องมีอากาศดีมากยิ่งขึ้น การดูแล : ต้นที่ปลูกในดินควรรดน้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ส่วนต้นที่ปลูกในน้ำให้ละลายปุ๋ยใส่น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง ตั้งกระถางให้โดนแดดรำไร ต้นเงินไหลมา ต้นเงินไหลมา ไม้เลื้อยที่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ต้องมีไว้ในครอบครอง เพราะเชื่อว่าใครเป็นเจ้าของจะร่ำรวยเงินทอง มีเงินใช้ไม่ขาดมือ การดูแล : สามารถปลูกและดูแลได้ง่าย ปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ เป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดมาก สามารถวางในร่มได้ ต้นวาสนา เหมาะสำหรับคนที่ทำกิจการค้าขาย เพราะเชื่อว่าถ้าปลูกจนสามารถทำให้ออกดอกได้ จะช่วยให้กิจการเจริญเติบโตขึ้นมาก หรือหากทำงานบริษัทก็จะได้เลื่อนขั้นไปตำแหน่งที่สูงขึ้น การดูแล : รดน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ปลูกหรือตั้งกระถางไว้ในพื้นที่แสงแดดรำไร ต้นยางอินเดีย ต้นยางอินเดีย ช่วยส่งเสริมผู้อยู่อาศัย ช่วยเยียวยาจิตใจให้มีพลัง ช่วยเสริมความเป็นมงคลในการใช้ชีวิต และช่วยให้เจ้าของมีความสุขร่มเย็นอยู่เสมอ การดูแล : เหมาะสำหรับวางประดับในบ้าน เช่น ข้างประตู ริมหน้าต่าง หรือที่มีแสงสว่างแต่ไม่โดดแดดจัด โดยหมั่นรดน้ำ 2-3 วันต่อครั้ง ต้นลิ้นมังกร ต้นไม้มงคล ที่มีความสามารถสารพัดประโยชน์ เชื่อกันว่า ช่วยคุ้มครองและกำจัดภัยอันตรายต่างๆ และนำโชค เป็นต้นไม้ฟอกอากาศ เหมาะที่จะนำมาปลูกในช่วงนี้ที่มีภาวะฝุ่น PM 2.5 หนา จะช่วยให้อากาศในคอนโดบริสุทธิ์มากขึ้น การดูแล : รดน้ำวันเว้นวัน หรือ 3 วันครั้ง สำหรับใครที่กำลังของตกแต่งห้องสายมู ที่ช่วงเสริมเรื่องฮวงจุ้ย ทั้งเงินทอง โชคลาภ และความอยู่เย็นเป็นสุข สามารถเลือกต้นไม้มงคล 5 ต้นนี้มาตกแต่งห้องได้เลยค่ะ หรือว่าจะเข้ามาเยี่ยมชมห้องตัวอย่างจาก คอนโด Origin Vertical เพื่อเลือกตำแหน่งวางต้นไม้ก่อนได้เลยค่ะ…
จากชีวิตอันแสนเร่งรีบ เราต่างต้องหาจังหวะชีวิตของตัวเอง เพื่อพร้อมปรับตัวทุกสถานการณ์ ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ‘ที่อยู่อาศัย’ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต่างต้องเลือกสรรให้เข้าตัวเองมากที่สุด และแน่นอนว่าหลายๆ คนก็เลือกคอนโด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า คอนโด High Rise หรือคอนโดตึกสูงเป็นนิยมมาโดยตลอด ด้วยความสะดุดตา โดดเด่นด้วยตัวสถาปัตยกรรมและความสูงของตัวอาคารทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยคอนโด High Rise อยู่ในทำเลศักยภาพใจกลางเมือง หรือใกล้รถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่ การเดินทางที่สะดวก และมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำได้ไม่มีเบื่อ เสมือนทุกวันเป็นวันพักผ่อน Urbanscape ชมวิวเมืองได้ 360 องศา  1 ในเหตุผลที่หลาย ๆ คนเลือกซื้อคอนโดตึกสูง ก็คือวิวเมืองที่เราพบเจอในทุกวัน การได้นั่งมองท้องฟ้ากว้าง ๆ ที่เปลี่ยนไปในทุกวันและแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ตัดกับอาคารสูงในเมือง ก็เป็นความสุขในรูปแบบหนึ่งของชาวคอนโดเช่นกัน High Ceiling ชั้นสูง ปลอดโปร่ง เป็นส่วนตัว ด้วยความสูงของตัวอาคารคอนโด High-Rise เช่นเคย ยิ่งห้องคอนโดของโครงการอยู่สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสเห็นทัศนียภาพที่สวยงามจากวิวมุมสูงได้มากขึ้น ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัว และปลอดโปร่ง ได้รับอากาศถ่ายเทจากกระแสลมโดยรอบได้ดี Living with Nature ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางพื้นที่สีเขียว โครงการคอนโด High Rise มีพื้นที่และขนาดโครงการค่อนข้างใหญ่ จึงมีพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติที่ผ่านการรังสรรค์มาเป็นอย่างดี ให้เราได้สูดอากาศทุกวัน Sky Facilities พักผ่อนพร้อมชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ คอนโด High Rise มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายตอบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้สุดสายตา Fitness สายรักสุขภาพ Sky Bar จิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิว และยังมี Facilities อีกมากมายที่ตอบโจทย์ชาวคอนโด Sunrise & Sunset ชมวิวพระอาทิตย์ ท้้งตอนขึ้นและพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าตัดกับวิวเมืองได้อย่างเต็มสายตา ซึ่งสามารถชมได้ทั้งจากห้องของคุณ และพื้นที่ที่ส่วนกลางที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เลือกคอนโด High Rise กับความสูงที่คุณสัมผัสได้…
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้รับเกียรติเข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการประกอบการ จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นการยกย่องเชิดชูในฐานะผู้ทรงคุณค่าที่มีความรู้ความสามารถระดับสูง ด้านการบริหารงานและบริหารคนอย่างแท้จริง และนับเป็นบุคคลที่เป็นแบบอย่างอันดีในการสร้างคุณงามความดีต่อสังคมและประเทศ โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญา ประจำปีการศึกษา 2565 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567…
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ร่วมลงนาม “CECI: Action for Sustainable Future” ผนึกกำลัง 37 องค์กรไทย นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเปลี่ยนอุตสาหกรรมก่อสร้างสู่ความยั่งยืนตลอด Supply Chain เดินหน้าโปรเจกต์ Waste Management ในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการในเครือ พร้อมวางโรดแมป “ORIGIN GIVE” สร้างความยั่งยืนรอบด้าน ดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2044 นายธนพล สินธุยนต์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนขององค์กร และประธานเจ้าหน้าที่ด้านงานออกแบบ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก กลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Circular Economy In Construction Industry: CECI) ร่วมกับ 37 องค์กรชั้นนำของไทยจาก 5 กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทสถาปนิกและที่ปรึกษาด้านการก่อสร้าง บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และบริษัทผู้ให้บริการจัดการของเหลือจากการก่อสร้าง ภายในงาน CECI : Action for Sustainable Future ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)มาประยุกต์ใช้ในการก่อสร้างตลอดห่วงโซอุปทาน (Supply Chain) พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดปริมาณวัสดุเหลือทิ้ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนไทย “เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่รอไม่ได้อีกต่อไป ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดคือการดูแลกระบวนการก่อสร้างของเราให้รบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่งครั้งนี้เราได้ผนึกกำลังกับกลุ่มองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปประยุกต์ปฏิบัติจริง เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายธนพล กล่าว ภายใต้ความร่วมมือ CECI ครั้งนี้ บริษัทได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาต่อยอดเป็นแนวทางบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ (Waste Management) ภายในพื้นที่ก่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเครือ อาทิ กำหนดให้มีการหมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ และกำหนดให้มีการนำวัสดุก่อสร้างเหลือใช้มาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยร่วมมือกับ Recycoex ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์รับซื้อ-ขายขยะรีไซเคิล ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้เครือข่าย CECI มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยบริษัทจะนำร่องใช้กับโครงการคอนโดมิเนียมออริจิ้น เพลส บางนา (Origin Place Bangna) เป็นโครงการแรก และจะขยายสู่ทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาในปี 2567 เป็นต้นไป นายธนพล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังวางโรดแมปขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนอย่างรอบด้าน ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “ORIGIN GIVE” ซึ่งหนึ่งในพันธกิจสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม คือการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ในโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบกระบวนการก่อสร้างในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้เกิดการหมุนเวียนและนำไปใช้ซ้ำ เพื่อลดมลพิษและปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุดก่อนออกสู่นอกพื้นที่โครงการ โดยมุ่งหวังให้ภารกิจนี้เป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2044 (พ.ศ. 2587) ซึ่งจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนในสังคม ทั้งนี้ ความร่วมมือ CECI มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ผ่านพันธกิจ (Mission) หลัก 5 ข้อ ได้แก่ 1.สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Circular Economy ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง 2.ขยายเครือข่ายความร่วมมือของ CECI ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 3.ผลักดัน และส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนทั้ง Value Chain ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง 4.พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยนำแนวคิดเรื่องการออกแบบอย่างยั่งยืน Smart…