แชร์

ORI ประเดิม Q1/2565 คว้ากำไรกว่า 738 ล้าน

ORI ประเดิม Q1/2565 คว้ากำไรกว่า 738 ล้าน

กลุ่มทุนต่างชาติมั่นใจ ตบเท้าร่วมทุนบ้าน-คอนโดเพิ่มอีก 5 โครงการ

 

“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” เผยผลประกอบการ Q1/2565 กวาดรายได้รวมกว่า 3,776 ล้าน พร้อมกำไรสุทธิ 738 ล้าน หลังโครงการบ้าน-คอนโด ทั้งในกรุงเทพฯ และ EEC ทยอยโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่อง ยอดขาย All Time High ปลายปี 64 ส่งผลกลุ่มทุนต่างชาติมั่นใจ ร่วมทุนบ้าน-คอนโดเพิ่มอีก 5 โครงการ ด้าน Q2/2565 จ่อเริ่มโอนเมกะโปรเจกต์คอนโดมิเนียมลักชัวรี “พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ” ตุนยอดแล้วกว่า 70% จากมูลค่าโครงการ 12,000 ล้านบาท แบ็คล็อกภาพรวมยังแกร่ง 35,800 ล้าน ด้านธุรกิจโรงแรมภายใต้วัน ออริจิ้น อัตราเข้าพักเติบโต หลังผ่อนคลายเปิดรับต่างชาติเที่ยวไทย แนวโน้มรับรู้รายได้เพิ่มต่อเนื่องหลังคว้า ibis 3 แห่ง คาดหนุนรายได้แตะ 17,500 ล้านตามเป้า

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 (ม.ค.-มี.ค.2565) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,776 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์ของคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กิจการร่วมค้า (Non-JV) กว่า 3,041 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจบริการ รายได้พิเศษจากกิจการร่วมทุน รวมถึงรายได้จากการบริหารโครงการร่วมทุนที่มีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 738 ล้านบาท

 

สำหรับโครงการที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 1/2565 ประกอบด้วย โครงการที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์เป็นครั้งแรกอย่างโครงการคอนโดมิเนียม ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) โครงการที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น พาร์ค ออริจิ้น พญาไท (Park Origin Phayathai) นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง (Notting Hill Rayong) ในโครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง ขณะเดียวกัน ยอดขายในไตรมาส 1/2565 ซึ่งอยู่ที่ 8,149 ล้านบาท ที่เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ราว 6% และเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 11% ก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการพร้อมอยู่ด้วย

 

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่ยังคงรักษาเสถียรภาพได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มทุนทั้งไทยและต่างชาติยังคงให้ความสนใจในการพัฒนาโครงการร่วมทุน (Joint Venture Project) กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมานี้ มีโครงการร่วมทุนเพิ่มขึ้นถึง 5 โครงการ โดยมีถึง 4 โครงการที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ คือ โซ ออริจิ้น พหลโยธิน 69 (So Origin Phaholyothin 69) และออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ ศรีนครินทร์ (Origin Plug & Play Srinakarin) โครงการบ้านจัดสรร 2 โครงการ คือ โครงการบริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 (Britania Town Bangna KM.17) และบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 (Britania Home Bangna KM.17) และ อีก 1 โครงการ ที่เป็นการร่วมทุนที่ได้พันธมิตรใหม่ (Partner) อย่าง บริษัท โลฟิส (ไทยแลนด์) จำกัด คือ โครงการแกรนด์บริทาเนีย คูคต สเตชั่น ซึ่งนับเป็นก้าวแรกของบริทาเนียในการร่วมทุน พัฒนาโครงการกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ

 

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับไตรมาส 2/2565 นั้น โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ (Park Origin Thonglor) มูลค่าโครงการกว่า 12,000 ล้านบาท จะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์เป็นครั้งแรก โดยปัจจุบันโครงการดังกล่าวมียอดขายรอรับรู้รายได้ (แบ็คล็อก) ตุนอยู่แล้วกว่า 70% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งน่าจะมีส่วนสำคัญต่อยอดโอนกรรมสิทธิ์และรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 ขณะเดียวกัน ภาพรวมแบ็คล็อกของบริษัทในปัจจุบัน ทั้งกลุ่มโครงการ JV และ Non-JV มีมูลค่ารวมกว่า 35,800 ล้านบาท คาดว่าจะมีส่วนสำคัญให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะเดียวกัน ฝั่งธุรกิจอื่นๆ ภายใต้แผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล หรือ Origin Multiverse ก็ยังคงเดินหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ยังคงมองเห็นสัญญาณที่ดีในการเติบโต โดยไตรมาส 1/2565 นี้ โรงแรม 2 แห่งแรก คือ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ (Staybridge Suites Bangkok Thonglor) และฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง (Holiday Inn & Suites Siracha Laemchabang) มีอัตราการเข้าพักกว่า 83% และ 58% ตามลำดับ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ไตรมาส 2/2565 จะมีการรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากโรงแรมไอบิส (ibis) 3 แห่งที่เพิ่งดำเนินการซื้อกิจการเสร็จสิ้น และน่าจะได้รับอานิสงส์เพิ่มเติมจากการผ่อนคลายมาตรการด้านการท่องเที่ยวและเปิดรับชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น จากปัจจัยทั้งหมดจึงคาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 17,500 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/2565 ทริส เรทติ้ง ได้ปรับอันดับเครดิตของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จากระดับ BBB แนวโน้ม Positive สู่ระดับ BBB+ แนวโน้ม Stable เนื่องจากบริษัทมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสามารถก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง ชิงส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งในธุรกิจคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีสินค้าครอบคลุมหลากหลายระดับราคาไปจนถึงราคา 50 ล้านบาท มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนลดลงจนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1 เท่าและยังสามารถสร้างรายได้และยอดขายได้อย่างเติบโต แม้ภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ในปี 2564 ที่ผ่านมา

 

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 103 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2565) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 154,900 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

บทความเรื่องราวที่น่าสนใจ

ภาครัฐฯ ออกนโยบายเอื้อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองปรับปรุงมาตรการ “ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม” สำหรับที่อยู่อาศัยปี 2567คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวข้างต้นช่วยจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งห่วงโซ่อุปทานการผลิต (Supply Chain) ส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ อันจะก่อให้เกิด การจ้างงาน การผลิต รวมถึงอาจก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีประเด็น การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ ซึ่งมีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ในการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่มีเป้าหมายในการดึงดูดนักลงทุนและผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการปรับกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการถือครองทรัพย์สิน ดังนั้น คณะรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ไปดำเนินการพิจารณา ศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการซึ่งจะได้นำเสนอกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81559…
อยู่คอนโดก็สามารถเลี้ยงสัตว์ได้แบบไม่ต้องแอบ เพราะออริจิ้นเราเข้าใจเหล่า Pet Lover จึงพัฒนาคอนโดสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้โดยเฉพาะ และยิ่งแฮปปี้กันแบบคูณสอง ทั้งน้องๆ และคนเลี้ยง กับไอเทมที่มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ให้การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดเป็นอะไรที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม หรือจะไปไหนก็ไม่ต้องคอยห่วง เหล่าทาสเตรียมซื้อ 3 ไอเทมให้เจ้านายได้เลย ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยง การทำความสะอาดอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเราเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และสิ่งที่ละเลยไม่ได้เลยก็คือการเป่าให้ขนของสัตว์เลี้ยงแห้งสนิท โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ขนยาว แต่การจะเป่าขนให้แห้งสนิทด้วยไดร์นั้นค่อนข้างใช้เวลานาน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย “ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยง” ทำให้การเป่าขนสัตว์เลี้ยงง่ายขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในตู้ จากนั้นกดทำงานตัวเครื่องก็จะเป่าขนอัตโนมัติได้ภายใน 30 – 45 นาที โดยที่เจ้าของไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด หุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่มาพร้อมกล้องคมชัด กล้องวงจรปิดสัตว์เลี้ยง ที่เป็นมากกว่าแค่กล้องธรรมดา มาในรูปแบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ มีล้อเคลื่อนที่ได้ และยังเล่นกับน้องหมา น้องแมวได้อีกด้วย สามารถเคลื่อนที่ได้ บังคับทิศทางได้ผ่านแอปพลิเคชัน มีลำโพง และไมโครโฟนในตัว ให้เจ้าของสามารถสื่อสารกับน้องๆ ได้ แม้ตัวจะอยู่ไกล แถมยังให้ขนมเป็นรางวัลให้กับน้องหมาน้องแมวได้อีกด้วย เป็นทั้งกล้องดูสัตว์เลี้ยง และเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับน้องๆ ระหว่างที่เจ้าของไม่อยู่ได้ เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ เป็นเครื่องที่อำนวยความสะดวก สบาย ให้กับทาสหมา ทาสแมวที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่ค่อยได้อยู่บ้าน หมดกังวลเวลาน้องหิวได้เลย เพราะเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้เจ้าของมีความสะดวก สบาย ในการให้อาหารน้องแบบสุดๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนทำอะไร หรือ ต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ไม่สามารถพาน้องไปด้วยได้ เลี้ยงสัตว์ได้แบบสบายใจกับโครงการคอนโดพร้อมอยู่เลี้ยงสัตว์ได้จากออริจิ้น และคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้อีกหลายโครงการ สำหรับใครที่เป็นสาย Pet Lover ไม่ควรพลาด เพราะเราออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดรองรับไลฟ์สไตล์สำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://oriurl.com/y7t42tsy…
สร้างพื้นที่สีเขียวในห้องเรา ด้วยต้นไม้มงคล ทั้งเฮงทั้งสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน นอกจากต้นไม้จะสร้างบรรยากาศและให้ความสวยงามสบายตาแล้ว ยังช่วยให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แถมต้นไม้เหล่านี้ยังช่วยเราลดความเสี่ยงจากฝุ่นละอองเปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศธรรมชาติได้อีกด้วย ในการเลือกต้นไม้มาปลูกในห้องนั้นควรเลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดเยอะ ช่วยฟอกอากาศได้ มีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป และดูแลง่าย เราเลยขอแนะนำต้นไม้มงคล ที่ปลูกง่าย ดูแลง่ายในคอนโด เสริมฮวงจุ้ย พร้อมเพิ่มความสดชื่นภายในห้องคุณอีกด้วย จะมีต้นอะไรบ้างไปดูกันค่ะ ต้นพลูด่าง ต้นพลูด่าง หากปลูกไว้ในห้องจะช่วยเพิ่มพูนบารมี เพิ่มพูนทรัพย์สิน ช่วยเพิ่มความสงบสุข และความราบรื่น ต้นพลูด่างมีประโยชน์ในเรื่องของการดูดสารพิษ ช่วยทำให้ห้องมีอากาศดีมากยิ่งขึ้น การดูแล : ต้นที่ปลูกในดินควรรดน้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ส่วนต้นที่ปลูกในน้ำให้ละลายปุ๋ยใส่น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง ตั้งกระถางให้โดนแดดรำไร ต้นเงินไหลมา ต้นเงินไหลมา ไม้เลื้อยที่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ต้องมีไว้ในครอบครอง เพราะเชื่อว่าใครเป็นเจ้าของจะร่ำรวยเงินทอง มีเงินใช้ไม่ขาดมือ การดูแล : สามารถปลูกและดูแลได้ง่าย ปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ เป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดมาก สามารถวางในร่มได้ ต้นวาสนา เหมาะสำหรับคนที่ทำกิจการค้าขาย เพราะเชื่อว่าถ้าปลูกจนสามารถทำให้ออกดอกได้ จะช่วยให้กิจการเจริญเติบโตขึ้นมาก หรือหากทำงานบริษัทก็จะได้เลื่อนขั้นไปตำแหน่งที่สูงขึ้น การดูแล : รดน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ปลูกหรือตั้งกระถางไว้ในพื้นที่แสงแดดรำไร ต้นยางอินเดีย ต้นยางอินเดีย ช่วยส่งเสริมผู้อยู่อาศัย ช่วยเยียวยาจิตใจให้มีพลัง ช่วยเสริมความเป็นมงคลในการใช้ชีวิต และช่วยให้เจ้าของมีความสุขร่มเย็นอยู่เสมอ การดูแล : เหมาะสำหรับวางประดับในบ้าน เช่น ข้างประตู ริมหน้าต่าง หรือที่มีแสงสว่างแต่ไม่โดดแดดจัด โดยหมั่นรดน้ำ 2-3 วันต่อครั้ง ต้นลิ้นมังกร ต้นไม้มงคล ที่มีความสามารถสารพัดประโยชน์ เชื่อกันว่า ช่วยคุ้มครองและกำจัดภัยอันตรายต่างๆ และนำโชค เป็นต้นไม้ฟอกอากาศ เหมาะที่จะนำมาปลูกในช่วงนี้ที่มีภาวะฝุ่น PM 2.5 หนา จะช่วยให้อากาศในคอนโดบริสุทธิ์มากขึ้น การดูแล : รดน้ำวันเว้นวัน หรือ 3 วันครั้ง สำหรับใครที่กำลังของตกแต่งห้องสายมู ที่ช่วงเสริมเรื่องฮวงจุ้ย ทั้งเงินทอง โชคลาภ และความอยู่เย็นเป็นสุข สามารถเลือกต้นไม้มงคล 5 ต้นนี้มาตกแต่งห้องได้เลยค่ะ หรือว่าจะเข้ามาเยี่ยมชมห้องตัวอย่างจาก คอนโด Origin Vertical เพื่อเลือกตำแหน่งวางต้นไม้ก่อนได้เลยค่ะ…
จากชีวิตอันแสนเร่งรีบ เราต่างต้องหาจังหวะชีวิตของตัวเอง เพื่อพร้อมปรับตัวทุกสถานการณ์ ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ‘ที่อยู่อาศัย’ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต่างต้องเลือกสรรให้เข้าตัวเองมากที่สุด และแน่นอนว่าหลายๆ คนก็เลือกคอนโด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า คอนโด High Rise หรือคอนโดตึกสูงเป็นนิยมมาโดยตลอด ด้วยความสะดุดตา โดดเด่นด้วยตัวสถาปัตยกรรมและความสูงของตัวอาคารทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยคอนโด High Rise อยู่ในทำเลศักยภาพใจกลางเมือง หรือใกล้รถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่ การเดินทางที่สะดวก และมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำได้ไม่มีเบื่อ เสมือนทุกวันเป็นวันพักผ่อน Urbanscape ชมวิวเมืองได้ 360 องศา  1 ในเหตุผลที่หลาย ๆ คนเลือกซื้อคอนโดตึกสูง ก็คือวิวเมืองที่เราพบเจอในทุกวัน การได้นั่งมองท้องฟ้ากว้าง ๆ ที่เปลี่ยนไปในทุกวันและแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ตัดกับอาคารสูงในเมือง ก็เป็นความสุขในรูปแบบหนึ่งของชาวคอนโดเช่นกัน High Ceiling ชั้นสูง ปลอดโปร่ง เป็นส่วนตัว ด้วยความสูงของตัวอาคารคอนโด High-Rise เช่นเคย ยิ่งห้องคอนโดของโครงการอยู่สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสเห็นทัศนียภาพที่สวยงามจากวิวมุมสูงได้มากขึ้น ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัว และปลอดโปร่ง ได้รับอากาศถ่ายเทจากกระแสลมโดยรอบได้ดี Living with Nature ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางพื้นที่สีเขียว โครงการคอนโด High Rise มีพื้นที่และขนาดโครงการค่อนข้างใหญ่ จึงมีพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติที่ผ่านการรังสรรค์มาเป็นอย่างดี ให้เราได้สูดอากาศทุกวัน Sky Facilities พักผ่อนพร้อมชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ คอนโด High Rise มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายตอบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้สุดสายตา Fitness สายรักสุขภาพ Sky Bar จิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิว และยังมี Facilities อีกมากมายที่ตอบโจทย์ชาวคอนโด Sunrise & Sunset ชมวิวพระอาทิตย์ ท้้งตอนขึ้นและพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าตัดกับวิวเมืองได้อย่างเต็มสายตา ซึ่งสามารถชมได้ทั้งจากห้องของคุณ และพื้นที่ที่ส่วนกลางที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เลือกคอนโด High Rise กับความสูงที่คุณสัมผัสได้…
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้รับเกียรติเข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการประกอบการ จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นการยกย่องเชิดชูในฐานะผู้ทรงคุณค่าที่มีความรู้ความสามารถระดับสูง ด้านการบริหารงานและบริหารคนอย่างแท้จริง และนับเป็นบุคคลที่เป็นแบบอย่างอันดีในการสร้างคุณงามความดีต่อสังคมและประเทศ โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญา ประจำปีการศึกษา 2565 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567…
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ร่วมลงนาม “CECI: Action for Sustainable Future” ผนึกกำลัง 37 องค์กรไทย นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเปลี่ยนอุตสาหกรรมก่อสร้างสู่ความยั่งยืนตลอด Supply Chain เดินหน้าโปรเจกต์ Waste Management ในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการในเครือ พร้อมวางโรดแมป “ORIGIN GIVE” สร้างความยั่งยืนรอบด้าน ดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2044 นายธนพล สินธุยนต์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนขององค์กร และประธานเจ้าหน้าที่ด้านงานออกแบบ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก กลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Circular Economy In Construction Industry: CECI) ร่วมกับ 37 องค์กรชั้นนำของไทยจาก 5 กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทสถาปนิกและที่ปรึกษาด้านการก่อสร้าง บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และบริษัทผู้ให้บริการจัดการของเหลือจากการก่อสร้าง ภายในงาน CECI : Action for Sustainable Future ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)มาประยุกต์ใช้ในการก่อสร้างตลอดห่วงโซอุปทาน (Supply Chain) พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดปริมาณวัสดุเหลือทิ้ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนไทย “เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่รอไม่ได้อีกต่อไป ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดคือการดูแลกระบวนการก่อสร้างของเราให้รบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่งครั้งนี้เราได้ผนึกกำลังกับกลุ่มองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปประยุกต์ปฏิบัติจริง เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายธนพล กล่าว ภายใต้ความร่วมมือ CECI ครั้งนี้ บริษัทได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาต่อยอดเป็นแนวทางบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ (Waste Management) ภายในพื้นที่ก่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเครือ อาทิ กำหนดให้มีการหมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ และกำหนดให้มีการนำวัสดุก่อสร้างเหลือใช้มาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยร่วมมือกับ Recycoex ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์รับซื้อ-ขายขยะรีไซเคิล ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้เครือข่าย CECI มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยบริษัทจะนำร่องใช้กับโครงการคอนโดมิเนียมออริจิ้น เพลส บางนา (Origin Place Bangna) เป็นโครงการแรก และจะขยายสู่ทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาในปี 2567 เป็นต้นไป นายธนพล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังวางโรดแมปขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนอย่างรอบด้าน ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “ORIGIN GIVE” ซึ่งหนึ่งในพันธกิจสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม คือการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ในโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบกระบวนการก่อสร้างในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้เกิดการหมุนเวียนและนำไปใช้ซ้ำ เพื่อลดมลพิษและปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุดก่อนออกสู่นอกพื้นที่โครงการ โดยมุ่งหวังให้ภารกิจนี้เป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2044 (พ.ศ. 2587) ซึ่งจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนในสังคม ทั้งนี้ ความร่วมมือ CECI มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ผ่านพันธกิจ (Mission) หลัก 5 ข้อ ได้แก่ 1.สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Circular Economy ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง 2.ขยายเครือข่ายความร่วมมือของ CECI ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 3.ผลักดัน และส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนทั้ง Value Chain ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง 4.พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยนำแนวคิดเรื่องการออกแบบอย่างยั่งยืน Smart…