แชร์

หลักสี่ – มีนบุรี – สำโรง : ทำเลน่าอยู่ 3 สถานีอินเตอร์เชนจ์รอบนอก

หลักสี่ – มีนบุรี – สำโรง
ทำเลน่าอยู่ 3 สถานีอินเตอร์เชนจ์รอบนอก

ทำเลน่าอยู่

หลักสี่ – มีนบุรี – สำโรง : ใครที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำจะพบว่า แต่ละสถานีที่เรานั่งผ่านนั้น มีจำนวนคนที่ขึ้น-ลง รถ ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยในบางสถานี ทางรถไฟฟ้าถึงกับต้องประกาศให้คนในรถ “ชิดใน” เพื่อให้คนที่รอรถ สามารถเข้าสู่ขบวนได้มากที่สุด ในขณะที่บางสถานี ก็แทบไม่มีคนเลย ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่า สถานีที่มีคนขึ้น-ลง จำนวนมาก มักมีอย่างน้อย 1 ใน 3 คุณสมบัตินี้

  1. เป็นสถานีที่เป็นอินเตอร์เชนจ์ หรือ “จุดเปลี่ยนเส้นทางรถไฟฟ้า” ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่น
  2. เป็นสถานีที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ หรืออยู่ในย่านธุรกิจ/การค้า
  3. เป็นสถานีที่เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่

และหลายๆ ครั้งเราจะพบว่า สถานีที่มีคุณสมบัติข้อ 1 มักจะมาพร้อมกับข้อ 2 หรือ 3 เป็นส่วนใหญ่ เพราะถือว่าเป็นสถานีที่มีความสำคัญมากพอ และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จนได้รับเลือกให้เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางของรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง

รถไฟฟ้าสถานีอินเตอร์เชนจ์

การใช้ชีวิตในย่านใกล้รถไฟฟ้าสถานีอินเตอร์เชนจ์ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางไปยังพื้นที่ๆ หลากหลาย ด้วยรถไฟฟ้า หรือต้องการตอบโจทย์การเดินทางที่หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่มีสมาชิกในบ้านหลายคน อย่างไรก็ตาม สถานีอินเตอร์เชนจ์หลายแห่ง โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง ก็มีความหนาแน่นเกินกว่าที่จะสามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้ หรือบางครั้ง ราคาคอนโดในพื้นที่ก็มีราคาแพงเกินเอื้อม ยิ่งถ้าเป็นคนที่ต้องการคอนโดพื้นที่ใหญ่ๆ ราคาก็จะยิ่งโดดไปไกล

เมื่อเป็นเช่นนี้ การเลือกคอนโดใกล้สถานีอินเตอร์เชนจ์ในย่าน EBD – Extended Business District หรือ ส่วนต่อขยายย่านธุรกิจ ที่เพียบพร้อมไปด้วยแหล่งงาน ศูนย์การค้า สิ่งอำนวยความสะดวก และการเดินทางที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายสาย เช่นเดียวกับย่าน CBD แต่มีความหนาแน่นต่ำกว่า ซึ่งหากเรากางแผนที่เส้นทางรถไฟฟ้าของกรุงเทพฯ ขึ้นมา เราจะพบว่า เส้นทางรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ จะวิ่งไปตามแนวถนนสายหลักที่เราคุ้นเคย

 

วงเวียนหลักสี่

ย่านหลักสี่ ถือเป็นหนึ่งในทำเลยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกรุงเทพฯ โซนเหนือ ก่อนที่จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ และรถไฟฟ้าสายสีชมพูเสียอีก เพราะเป็นจุดตัดในรูปแบบวงเวียนขนาดใหญ่ของถนนสายหลัก 3 สาย คือ รามอินทรา พหลโยธิน แจ้งวัฒนะ แถมยังสามารถเชื่อมไปยังถนนวิภาวดีรังสิตและทางยกระดับอุตราภิมุขได้ง่าย

ซึ่งถนนแต่ละสายในย่านนี้ ล้วนเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญและสถานศึกษาหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะที่รวมหน่วยงานราชการจำนวนมากเอาไว้ ตามด้วยกองทัพอากาศ และสนามบินดอนเมือง และยังมีสถานศึกษาในพื้นที่เช่น ม.ศรีปทุมฯ และ ม.เกษตรศาสตร์

ยังไม่รวมถึงห้างสรรพสินค้าในย่านใกล้เคียง อาทิ ไอทีสแควร์ เซ็นทรัลรามอินทรา เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และศูนย์การค้าชุมชนที่หลากหลายบนถนนรามอินทราในละแวกใกล้เคียง ที่ช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ดี จนดูเหมือนว่า ปัญหาเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่คือ การจราจรที่ติดขัด ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย และรถไฟฟ้าสายสีชมพู จะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางไปยังศูนย์การค้า สถานศึกษา และสถานที่สำคัญต่างๆ ในย่านนี้ระหว่างช่วงเวลาเร่งด่วนได้มาก

ความได้เปรียบอีกอย่างของสถานีวงเวียนหลักสี่คือ เป็นสถานีที่เชื่อมต่อโดยตรงกับ BTS สายสุขุมวิท ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อโดยตรงกับย่านที่สำคัญอย่างจตุจักร อนุสาวรีย์ชัยฯ สยาม เพลินจิต อโศก ฯลฯ

 

สำโรง

ในอดีต ย่านแห่งนี้เป็นเพียงย่านชุมชนธรรมดาๆ บนชายขอบของพื้นที่กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ แต่หลังจากที่ BTS สำโรง ซึ่งเป็นสถานีที่เชื่อมต่อโดยตรงกับ BTS สายสุขุมวิทมาถึง ย่านนี้ก็กลายเป็นย่านเนื้อหอม ที่มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาลงทุนและพักอาศัยจำนวนมาก เช่นเดียวกับย่านหลักสี่ ที่สามารถเชื่อมการเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ เมื่อเทียบกับการเดินทางรูปแบบอื่นๆ

และในปี 2564 สถานีสำโรง ก็จะกลายเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ที่สมบูรณ์แบบ ในวันที่รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างเสร็จ โดยจะวิ่งตามเส้นทางถนนเทพารักษ์ เลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ ผ่านจุดสำคัญๆ บนถนนรามคำแหง และลาดพร้าว จนไปบรรจบที่ MRT ลาดพร้าว

 

มีนบุรี

ทำเลแห่งอนาคตที่จะเป็นศูนย์กลางการเดินทางขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ โซนตะวันออก จากการเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีส้ม วิ่งตามถนนสายหลักที่ทุกคนคุ้นเคยอย่างรามอินทรา และรามคำแหง ซึ่งจะสามารถเชื่อมการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ไฮไลท์ของจุดอินเตอร์เชนจ์แห่งนี้อยู่ที่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งเป็นสายที่ผ่านสถานศึกษาในพื้นที่หลายแห่ง รวมทั้ง Landmark ของย่านรามคำแหงอย่างราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนจะไปบรรจบที่ MRT ศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังย่าน CBD อื่นๆ ได้ง่าย

 

ความน่าสนใจของสถานี New Interchange เหล่านี้คือ การเป็นจุดที่เชื่อมต่อการเดินทางไปยังหลากหลายเส้นทาง ในย่านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม โดยทั้งหมดมาพร้อมกับราคาที่พักอาศัยที่ไม่สูงนัก และมีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางได้ดีกว่าสถานีที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าเพียง 1 เส้นทาง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

บทความเรื่องราวที่น่าสนใจ

ภาครัฐฯ ออกนโยบายเอื้อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองปรับปรุงมาตรการ “ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม” สำหรับที่อยู่อาศัยปี 2567คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวข้างต้นช่วยจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งห่วงโซ่อุปทานการผลิต (Supply Chain) ส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ อันจะก่อให้เกิด การจ้างงาน การผลิต รวมถึงอาจก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีประเด็น การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ ซึ่งมีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ในการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่มีเป้าหมายในการดึงดูดนักลงทุนและผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการปรับกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการถือครองทรัพย์สิน ดังนั้น คณะรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ไปดำเนินการพิจารณา ศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการซึ่งจะได้นำเสนอกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81559…
อยู่คอนโดก็สามารถเลี้ยงสัตว์ได้แบบไม่ต้องแอบ เพราะออริจิ้นเราเข้าใจเหล่า Pet Lover จึงพัฒนาคอนโดสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้โดยเฉพาะ และยิ่งแฮปปี้กันแบบคูณสอง ทั้งน้องๆ และคนเลี้ยง กับไอเทมที่มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ให้การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดเป็นอะไรที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม หรือจะไปไหนก็ไม่ต้องคอยห่วง เหล่าทาสเตรียมซื้อ 3 ไอเทมให้เจ้านายได้เลย ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยง การทำความสะอาดอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเราเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และสิ่งที่ละเลยไม่ได้เลยก็คือการเป่าให้ขนของสัตว์เลี้ยงแห้งสนิท โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ขนยาว แต่การจะเป่าขนให้แห้งสนิทด้วยไดร์นั้นค่อนข้างใช้เวลานาน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย “ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยง” ทำให้การเป่าขนสัตว์เลี้ยงง่ายขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในตู้ จากนั้นกดทำงานตัวเครื่องก็จะเป่าขนอัตโนมัติได้ภายใน 30 – 45 นาที โดยที่เจ้าของไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด หุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่มาพร้อมกล้องคมชัด กล้องวงจรปิดสัตว์เลี้ยง ที่เป็นมากกว่าแค่กล้องธรรมดา มาในรูปแบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ มีล้อเคลื่อนที่ได้ และยังเล่นกับน้องหมา น้องแมวได้อีกด้วย สามารถเคลื่อนที่ได้ บังคับทิศทางได้ผ่านแอปพลิเคชัน มีลำโพง และไมโครโฟนในตัว ให้เจ้าของสามารถสื่อสารกับน้องๆ ได้ แม้ตัวจะอยู่ไกล แถมยังให้ขนมเป็นรางวัลให้กับน้องหมาน้องแมวได้อีกด้วย เป็นทั้งกล้องดูสัตว์เลี้ยง และเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับน้องๆ ระหว่างที่เจ้าของไม่อยู่ได้ เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ เป็นเครื่องที่อำนวยความสะดวก สบาย ให้กับทาสหมา ทาสแมวที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่ค่อยได้อยู่บ้าน หมดกังวลเวลาน้องหิวได้เลย เพราะเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้เจ้าของมีความสะดวก สบาย ในการให้อาหารน้องแบบสุดๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนทำอะไร หรือ ต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ไม่สามารถพาน้องไปด้วยได้ เลี้ยงสัตว์ได้แบบสบายใจกับโครงการคอนโดพร้อมอยู่เลี้ยงสัตว์ได้จากออริจิ้น และคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้อีกหลายโครงการ สำหรับใครที่เป็นสาย Pet Lover ไม่ควรพลาด เพราะเราออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดรองรับไลฟ์สไตล์สำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://oriurl.com/y7t42tsy…
สร้างพื้นที่สีเขียวในห้องเรา ด้วยต้นไม้มงคล ทั้งเฮงทั้งสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน นอกจากต้นไม้จะสร้างบรรยากาศและให้ความสวยงามสบายตาแล้ว ยังช่วยให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แถมต้นไม้เหล่านี้ยังช่วยเราลดความเสี่ยงจากฝุ่นละอองเปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศธรรมชาติได้อีกด้วย ในการเลือกต้นไม้มาปลูกในห้องนั้นควรเลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดเยอะ ช่วยฟอกอากาศได้ มีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป และดูแลง่าย เราเลยขอแนะนำต้นไม้มงคล ที่ปลูกง่าย ดูแลง่ายในคอนโด เสริมฮวงจุ้ย พร้อมเพิ่มความสดชื่นภายในห้องคุณอีกด้วย จะมีต้นอะไรบ้างไปดูกันค่ะ ต้นพลูด่าง ต้นพลูด่าง หากปลูกไว้ในห้องจะช่วยเพิ่มพูนบารมี เพิ่มพูนทรัพย์สิน ช่วยเพิ่มความสงบสุข และความราบรื่น ต้นพลูด่างมีประโยชน์ในเรื่องของการดูดสารพิษ ช่วยทำให้ห้องมีอากาศดีมากยิ่งขึ้น การดูแล : ต้นที่ปลูกในดินควรรดน้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ส่วนต้นที่ปลูกในน้ำให้ละลายปุ๋ยใส่น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง ตั้งกระถางให้โดนแดดรำไร ต้นเงินไหลมา ต้นเงินไหลมา ไม้เลื้อยที่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ต้องมีไว้ในครอบครอง เพราะเชื่อว่าใครเป็นเจ้าของจะร่ำรวยเงินทอง มีเงินใช้ไม่ขาดมือ การดูแล : สามารถปลูกและดูแลได้ง่าย ปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ เป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดมาก สามารถวางในร่มได้ ต้นวาสนา เหมาะสำหรับคนที่ทำกิจการค้าขาย เพราะเชื่อว่าถ้าปลูกจนสามารถทำให้ออกดอกได้ จะช่วยให้กิจการเจริญเติบโตขึ้นมาก หรือหากทำงานบริษัทก็จะได้เลื่อนขั้นไปตำแหน่งที่สูงขึ้น การดูแล : รดน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ปลูกหรือตั้งกระถางไว้ในพื้นที่แสงแดดรำไร ต้นยางอินเดีย ต้นยางอินเดีย ช่วยส่งเสริมผู้อยู่อาศัย ช่วยเยียวยาจิตใจให้มีพลัง ช่วยเสริมความเป็นมงคลในการใช้ชีวิต และช่วยให้เจ้าของมีความสุขร่มเย็นอยู่เสมอ การดูแล : เหมาะสำหรับวางประดับในบ้าน เช่น ข้างประตู ริมหน้าต่าง หรือที่มีแสงสว่างแต่ไม่โดดแดดจัด โดยหมั่นรดน้ำ 2-3 วันต่อครั้ง ต้นลิ้นมังกร ต้นไม้มงคล ที่มีความสามารถสารพัดประโยชน์ เชื่อกันว่า ช่วยคุ้มครองและกำจัดภัยอันตรายต่างๆ และนำโชค เป็นต้นไม้ฟอกอากาศ เหมาะที่จะนำมาปลูกในช่วงนี้ที่มีภาวะฝุ่น PM 2.5 หนา จะช่วยให้อากาศในคอนโดบริสุทธิ์มากขึ้น การดูแล : รดน้ำวันเว้นวัน หรือ 3 วันครั้ง สำหรับใครที่กำลังของตกแต่งห้องสายมู ที่ช่วงเสริมเรื่องฮวงจุ้ย ทั้งเงินทอง โชคลาภ และความอยู่เย็นเป็นสุข สามารถเลือกต้นไม้มงคล 5 ต้นนี้มาตกแต่งห้องได้เลยค่ะ หรือว่าจะเข้ามาเยี่ยมชมห้องตัวอย่างจาก คอนโด Origin Vertical เพื่อเลือกตำแหน่งวางต้นไม้ก่อนได้เลยค่ะ…
จากชีวิตอันแสนเร่งรีบ เราต่างต้องหาจังหวะชีวิตของตัวเอง เพื่อพร้อมปรับตัวทุกสถานการณ์ ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ‘ที่อยู่อาศัย’ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต่างต้องเลือกสรรให้เข้าตัวเองมากที่สุด และแน่นอนว่าหลายๆ คนก็เลือกคอนโด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า คอนโด High Rise หรือคอนโดตึกสูงเป็นนิยมมาโดยตลอด ด้วยความสะดุดตา โดดเด่นด้วยตัวสถาปัตยกรรมและความสูงของตัวอาคารทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยคอนโด High Rise อยู่ในทำเลศักยภาพใจกลางเมือง หรือใกล้รถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่ การเดินทางที่สะดวก และมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำได้ไม่มีเบื่อ เสมือนทุกวันเป็นวันพักผ่อน Urbanscape ชมวิวเมืองได้ 360 องศา  1 ในเหตุผลที่หลาย ๆ คนเลือกซื้อคอนโดตึกสูง ก็คือวิวเมืองที่เราพบเจอในทุกวัน การได้นั่งมองท้องฟ้ากว้าง ๆ ที่เปลี่ยนไปในทุกวันและแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ตัดกับอาคารสูงในเมือง ก็เป็นความสุขในรูปแบบหนึ่งของชาวคอนโดเช่นกัน High Ceiling ชั้นสูง ปลอดโปร่ง เป็นส่วนตัว ด้วยความสูงของตัวอาคารคอนโด High-Rise เช่นเคย ยิ่งห้องคอนโดของโครงการอยู่สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสเห็นทัศนียภาพที่สวยงามจากวิวมุมสูงได้มากขึ้น ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัว และปลอดโปร่ง ได้รับอากาศถ่ายเทจากกระแสลมโดยรอบได้ดี Living with Nature ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางพื้นที่สีเขียว โครงการคอนโด High Rise มีพื้นที่และขนาดโครงการค่อนข้างใหญ่ จึงมีพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติที่ผ่านการรังสรรค์มาเป็นอย่างดี ให้เราได้สูดอากาศทุกวัน Sky Facilities พักผ่อนพร้อมชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ คอนโด High Rise มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายตอบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้สุดสายตา Fitness สายรักสุขภาพ Sky Bar จิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิว และยังมี Facilities อีกมากมายที่ตอบโจทย์ชาวคอนโด Sunrise & Sunset ชมวิวพระอาทิตย์ ท้้งตอนขึ้นและพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าตัดกับวิวเมืองได้อย่างเต็มสายตา ซึ่งสามารถชมได้ทั้งจากห้องของคุณ และพื้นที่ที่ส่วนกลางที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เลือกคอนโด High Rise กับความสูงที่คุณสัมผัสได้…
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้รับเกียรติเข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการประกอบการ จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นการยกย่องเชิดชูในฐานะผู้ทรงคุณค่าที่มีความรู้ความสามารถระดับสูง ด้านการบริหารงานและบริหารคนอย่างแท้จริง และนับเป็นบุคคลที่เป็นแบบอย่างอันดีในการสร้างคุณงามความดีต่อสังคมและประเทศ โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญา ประจำปีการศึกษา 2565 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567…
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ร่วมลงนาม “CECI: Action for Sustainable Future” ผนึกกำลัง 37 องค์กรไทย นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเปลี่ยนอุตสาหกรรมก่อสร้างสู่ความยั่งยืนตลอด Supply Chain เดินหน้าโปรเจกต์ Waste Management ในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการในเครือ พร้อมวางโรดแมป “ORIGIN GIVE” สร้างความยั่งยืนรอบด้าน ดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2044 นายธนพล สินธุยนต์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนขององค์กร และประธานเจ้าหน้าที่ด้านงานออกแบบ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก กลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Circular Economy In Construction Industry: CECI) ร่วมกับ 37 องค์กรชั้นนำของไทยจาก 5 กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทสถาปนิกและที่ปรึกษาด้านการก่อสร้าง บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และบริษัทผู้ให้บริการจัดการของเหลือจากการก่อสร้าง ภายในงาน CECI : Action for Sustainable Future ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)มาประยุกต์ใช้ในการก่อสร้างตลอดห่วงโซอุปทาน (Supply Chain) พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดปริมาณวัสดุเหลือทิ้ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนไทย “เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่รอไม่ได้อีกต่อไป ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดคือการดูแลกระบวนการก่อสร้างของเราให้รบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่งครั้งนี้เราได้ผนึกกำลังกับกลุ่มองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปประยุกต์ปฏิบัติจริง เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายธนพล กล่าว ภายใต้ความร่วมมือ CECI ครั้งนี้ บริษัทได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาต่อยอดเป็นแนวทางบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ (Waste Management) ภายในพื้นที่ก่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเครือ อาทิ กำหนดให้มีการหมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ และกำหนดให้มีการนำวัสดุก่อสร้างเหลือใช้มาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยร่วมมือกับ Recycoex ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์รับซื้อ-ขายขยะรีไซเคิล ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้เครือข่าย CECI มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยบริษัทจะนำร่องใช้กับโครงการคอนโดมิเนียมออริจิ้น เพลส บางนา (Origin Place Bangna) เป็นโครงการแรก และจะขยายสู่ทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาในปี 2567 เป็นต้นไป นายธนพล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังวางโรดแมปขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนอย่างรอบด้าน ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “ORIGIN GIVE” ซึ่งหนึ่งในพันธกิจสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม คือการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ในโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบกระบวนการก่อสร้างในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้เกิดการหมุนเวียนและนำไปใช้ซ้ำ เพื่อลดมลพิษและปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุดก่อนออกสู่นอกพื้นที่โครงการ โดยมุ่งหวังให้ภารกิจนี้เป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2044 (พ.ศ. 2587) ซึ่งจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนในสังคม ทั้งนี้ ความร่วมมือ CECI มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ผ่านพันธกิจ (Mission) หลัก 5 ข้อ ได้แก่ 1.สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Circular Economy ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง 2.ขยายเครือข่ายความร่วมมือของ CECI ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 3.ผลักดัน และส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนทั้ง Value Chain ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง 4.พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยนำแนวคิดเรื่องการออกแบบอย่างยั่งยืน Smart…